google.com, pub-4854457777881289, DIRECT, f08c47fec0942fa0 วัลลภ ทำนิล: วิธีลัด ทำในใจให้ถึงภาวะของจิตที่บริสุทธิ์ - พุทธทาสภิกขุ

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2563

วิธีลัด ทำในใจให้ถึงภาวะของจิตที่บริสุทธิ์ - พุทธทาสภิกขุ


วิธีลัด ทำในใจให้ถึงภาวะของจิตที่บริสุทธิ์.
.
วิธีลัดๆ สั้นๆ ก็คือ...
การทำในใจถึงภาวะแห่งความบริสุทธิ์ของจิต
ซึ่งปราศจากการยึดถือโดยประการทั้งปวง 
แทนการทำในใจถึงสิ่งต่างๆ
อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดถือมากขึ้น ๆ 
.
ดังเช่น พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ตามทัศนะของตนเป็นตัวอย่าง 
การทำอย่างนี้เป็นการชำระจิตให้หมดจดจากสิ่งห่อหุ้มได้จริง ๆ. 
.
และ พระพุทธ พระธรรมพระสงฆ์ ตัวจริงก็มีความหมายถึง…
“ภาวะแห่งความบริสุทธิ์แห่งจิตอันนี้นั่นเอง”
.
ความปรารถนาแต่ในการพรากจิตออกมาเสียจากเครื่องห่อหุ้ม
ผูกพันทุก ๆ ประการ จึงเป็นความปรารถนาที่มีรากฐานแน่นแฟ้น 
และเป็นความปรารถนาที่บริสุทธิ์ยิ่งเสียกว่าความปรารถนา
ที่จะติดแน่นกันอยู่กับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 
ไม่ว่าโดยทัศนะไหนหมด. 
.
ในขั้นที่ไร้ศีลธรรมนั้น ไม่มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 
ในขั้นที่มีศีลธรรมมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์. 
และในขั้นที่หลุดพ้นจากเครื่องพัวพันทั้งปวงนั้น 
กลับไม่มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อีก,
.
แต่เป็นการไม่มีคนละอย่างละอันจากขั้นที่ไร้ศีลธรรม. 
ความมุ่งหมายของพุทธศาสนาสอนให้มนุษย์มีใจสูง
ถึงขั้นเหนือโลกหรือหลุดพ้นจากเครื่องพัวพันทั้งปวง 
ซึ่งเป็นเหตุให้พุทธศาสนามีระดับสูงกว่าศาสนา
อื่นอันมีความสูงเพียงขั้นศีลธรรม. 
.
ฉะนั้น...
ความปรารถนาในการพรากจิต
ออกมาเสียจากเครื่องห่อหุ้มทั้งปวง 
จึงเป็นความปรารถนาที่บริสุทธิ์
ตามหลักแห่งพุทธศาสนา. 
.
คนทั่วไปอาจขลาดกลัวในการที่จะละความสนใจ
จากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 
และบุญกุศลและสิ่งสวยงามอื่น ๆ 
มาสนใจแน่วแน่แต่ในเรื่องภาวะความหมดจด
จากความยึดถือโดยประการทั้งปวงของจิต. 
.
แต่ถ้าเขาจะได้พิจารณาดูให้ถูกตรงจุดที่สำคัญ 
คือที่ตัวจิตเองอย่างถูกต้องถ่องแท้ จนกระทั่งพบว่า…
.
ความทุกข์ทรมานกดทับทั้งหลาย 
ที่กำลังหุ้มรุมอยู่ที่จิตทุกเวลานั้น
มันเนื่องมาจากความยึดถือนั่นเองแล้ว 
.
ก็จะเกิดความแน่ใจหรือความกล้าหาญ 
ในการที่จะเพ่งหาแต่ความออกไปได้ของจิตอย่างเดียว
คือเพ่งหาช่องที่จะเล็ดลอดออกไปเสีย
จากความกลุ้มรุมของสิ่งห่อหุ้มอย่างเดียว.
.
ทั้งนี้โดยความเชื่อความเห็นของตัวเอง ไม่ต้องเชื่อตามพระคัมภีร์
ที่สอนว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ จึงจะเกิดความกล้าที่ถูกต้องแท้จริง
และเป็นความปรารถนาที่บริสุทธิ์จริงๆ. 
.
เมื่อสิ่งต่างๆ ลงรูปกันกับความจริงเช่นนี้ 
ความปล่อยวางก็มีหรือค่อยๆ 
มีขึ้นเองอย่างไม่ชักช้าเฉื่อยชา.
.
สำหรับจิตซึ่งเป็นตัวประธานยืนโรงสำหรับถูกพัวพัน
หรือหลุดพ้นออกไปได้นั้นเล่า เราไม่ขอเอามาเป็นตัวเรา 
เพราะความรู้สึกแจ่มแจ้งยิ่งขึ้นของเราเอง. 
.
อย่างมากที่จะเป็นได้ก็เป็นเพียงให้เป็นสิ่งที่รู้สึกทุกข์
เพราะถูกผูกพัน, หรือรู้สึกสุขเพราะได้รับความปล่อยวาง
เท่านั้นเอง ไม่ใช่ตัวตนของเรา.
.
#พุทธทาสภิกขุ
#ภูเขาแห่งวิถีพุทธธรรม #หน้า_๓๔-๓๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น